หากสงสัยก็จงตั้งคำถาม เมื่อตั้งคำถามแล้วก็จงหาคำตอบ
โลกทุกวันนี้การหาคำตอบ ไม่ใช่แค่การ “ถาม” หรือ รอฟังจากผู้รู้ รอดูจากผู้เคยเห็นเท่านั้น การ “อ่าน” และการ “ค้นคว้า” ไม่ว่าจากแหล่งความรู้ใด ใด แล้วนำมาแยกแยะว่าอันไหนจริง อันไหนลวงนั่ถือเป็นประเด็นที่สำคัญยิ่งยวดไปกว่าการรับรู้ เชื่อ โดยไม่ไตร่ตรอง คัดแยก
ความโหดร้ายของการใช้ความรู้ที่ผิดๆ ไปทำร้ายผู้อื่นนั้นมันน่ากลัวยิ่งนัก
เมื่อเรารู้ว่า เสิร์ชเอ็นจิ้น นั้นมีหลายด้าน เราก็เลือกเอาด้านที่มันดี แต่ปัญหาของมันไม่ได้อยู่ที่ เรามีเครื่องมือค้นหาที่เจ๋งป๊าบ แต่มันอยู่ที่ เราใช้มันอย่างไร นั่นต่างหาก
วันนี้ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ วันที่ผมนั่งดูหน้าวอลล์ของ Facebook ตัวเองตามปกติ แต่ผมถูกสะกิดจากโพสต์อันหนึ่ง มีเพื่อนแชร์มา เขียนว่า โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ใช้ 365 วัน 5 ชม. 48 นาที 46 วินาที,
คนทำปฏิทินจึงเก็บเศษ 5 ชม.กว่านั้นไว้ รอมาทดรวมกัน เป็นวันที่ 29 กุมภา สิ่งแรกที่ผมวาบขึ้นมาในหัวคือ “มันง่ายขนาดนั้นเลยหรือวะ“
ในถาวะที่พื้นที่ส่วนกลางของประเทศไทยกำลังประสบภัยน้ำท่วมอย่างหนัก ผมไม่รู้ว่าพื้นที่แห่งนี้ในรอบสามพันปีมันเคยเกิดน้ำท่วมอย่างนี้หรือไม่ แต่เท่าที่รับรู้ ผมว่ามันไม่ใช่น้ำท่วม มันเป็นแค่เพียงมวลน้ำมหาศาลไหลลงทะเล ตามกฎของไหล
แต่ในช่วงนี้มันมากเกินกว่าที่เคยเกิดขึ้นแค่นั้นเอง
ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมชาติ
การอยู่ท่ามกลางข่าวสารที่ถาโถม เยอะแยะจนบางครั้งอาจจะเมาหมัดนักข่าว จนผู้เสพย์อย่างเราแยกแยะลำบากว่าอะไรจริง อะไรปลอม มันคลับคล้ายคลับคลาเหมือนเวลาเรามองคนที่ทำศัลยกรรมมา ต้องรอเวลาผ่านเลยถึงจะมองเห็นความชัดเจน ช่วงนี้ ผมหมายถึงช่วงหลังเลือกตั้ง กรกฎาคม 2554 การเมืองพลิกขั้ว ประชาชนเลือกข้าง ใช่ ชีวิตจริงเราก็ต้องเลือก เมื่อมีฝ่ายได้ ก็ต้องมีฝ่ายเสีย เจ็บปวดช้ำใจก็ตกไปอยู่กับคนที่พ่ายแพ้ การพ่ายแพ้ก็แค่พ่ายแพ้เพียงในนามของความเป็นสังคม การอยู่ร่วมกันในสังคม ผู้ชนะในวันนี้ ก่อนหน้าก็เคยปราชัยมาแล้ว ผู้แพ้ในวันนี้ก่อนหน้าก็เคยครองแชมป์มาก่อน สมบัติผลัดกันชม มันคือคำจริง ความจริงในโลกแห่งสังคมการเมืองการปกครอง ในวิถีของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ชั้นบนสุดของห่วงโซ่อาหารอย่างมนุษย์
สำหรับผมเองแล้วอาจจะแยกแยะการดำเนินแห่งชีวิตออกเป็น 4 ระดับ คือ ตัวตน ครอบครัว สังคมและเหนือสังคม (ความตายและจักรวาล) ผมคิดว่าการแยกแยะชีวิตของตัวเองออกเป็น 4 แบบนี้ ทำให้ผมมีชีวิตและใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ง่ายขึ้น ยิ้มง่ายขึ้น ทรมานตัวเองน้อยลง
ช่วงนี้ หมายถึงช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2554 ข่าวรับน้องมาแรงอีกคำรบ ที่สำคัญมีข่าวคราวจากสถาบันแดนฝันของกระผมขึ้นหน้าหนึ่งเสียด้วย
รุ่นน้องประท้วงรุ่นพี่จากการประชุมเชียร์ อันโหดร้าย ซึ่งจริงๆ แล้วตอนนี้ผมไม่รู้เป็นยังไง แต่สมัยที่ผมเข้าเรียน ที่สารคาม มมส. เมื่อ 11 ปีที่ผ่านมา ผมถือว่ากิจกรรมรับน้องเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผมไม่ค่อยชอบ ไม่อยากเข้าและแอบหนีไปเตะบอลที่สนามโรงเรียนบ้านท่าขอนยาง บ่อยๆ (เตะใน มอ ไม่ได้เดี๋ยวพวกรุ่นพี่เห็น โรงเรียนบ้านท่าขอนยางก็อยู่ใกล้ๆ กันและอาจจะถูก มอ ข้างๆ อมสักวัน) หรือนอนอ่านหนังสือในห้อง เพราะคิดว่าสองอย่างนี้น่าจะมีประโยชน์กว่าการไป วิดพื้น 100 ครั้ง วิ่งจัดแถวให้ได้ภายใน 5 วิ กระโดดกบขึ้นลงบันได หรืออะไรก็ตามที่คนปกติเขาไม่ค่อยทำกันแต่พี่ว๊ากกกกก จัดหามาให้ ด้วยเหตุผลคลาสสิค “เพื่อความสามัคคี สมานฉันท์” แต่ยิ่งทำแม่มยิ่งแตกแยก
บางทีอาจจะมี การเยิ้บแก้กรรมน้องๆ สัก 2 ดอก ตามมาเหมือนที่แม่ชีบางท่านว่าก็ ไม่รู้
อยากรู้จริงๆ มีเงินมากๆ มีที่ทางมากๆ ถ้าเกิดสงครามแล้วโลกมันไม่น่าอยู่ มันจะหอบข้าวของหนีไปอยู่ดวงจันทร์หรืออย่างไร อย่าลืมเอาลูกหลานไปด้วย ลูกๆ ที่เขาเหล่านั้นไม่ได้ขอเกิด แต่พ่อแม่ดันอยากมีอยากเลี้ยง
บางทีผมก็อยากคิดค้าน ในหลายๆ ด้าน หลายๆ เรื่องราว หรืออาจเป็นเพราะผมเชื่อ ในระบบการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตมากเกินไป
อย่างที่นักวิทยาศาสตร์ นักชีววิทยาบางคน คิดว่า “หมีแพนด้า ควรจะสูญพันธุ์ไปได้แล้ว” มนุษย์ ไม่ควรเข้าไปแทรกแทรงมากเกินไป ทำให้เราสูญเสียทรัพยากรส่วนอื่นเพื่อนำมาทดแทนการคงอยู่ของแพนด้า
แต่ในอีกมุมหนึ่ง การที่มนุษย์ ได้เสือกยื่นมือเข้าไปแทรกแซง มันก็ไม่ได้ต่างกับ ธรรมชาติ กำลังดูแลธรรมชาติ ด้วยตัวของมันเองเพราะ มนุษย์คือส่วนหนึ่งของธรรมชาติ นอกจากจะมีคนคิดว่า เราเดินทางมาจากดาวดวงอื่นเมื่อ 11 ล้านปีที่ผ่านมา แดกทรัพยากรณ์ในดาวดวงนี้ให้หมด แล้วเดินทางล่าอาณานิคมต่อ พวกที่ไม่ไป ก็ไปอยู่นิคมสร้างตนเอง
[audio:http://pornantha.com/audio/forgot.mp3]
ครึ่งหนึ่งของชีวิต เราประมาณกันไว้ด้วยอายุประมาณเท่าไหร่ 20 ปี สามสิบปี สี่สิบปี ห้าสิบปี อันหลังนี้ออกจะยืนยาว นั่งยาวไปหน่อย คำตอบนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกัน การประมาณกับความแม่นยำมันไม่ค่อยเข้ากันอยู่แล้ว ไหนจะเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้อีก
อันนี้น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดคำว่า “ทำวันนี้ให้ดีที่สุด” แต่ ที่สุดของเรา กับ “ที่สุดของแจ้” ก็คงไม่เหมือนกันอีก แล้วมันจะสุดตรงไหน
นั่นสิ มันจะสุดที่ตรงไหน
เอาเป็นว่าใช้ชีวิตเรื่อยๆ แบบไม่เบียดเบียนใครก็แล้วกันน่าจะเข้าท่ากว่า อยากเข้าท่ากว่านี้ ก็ไปขับเรือจะได้เข้าท่าทุกวันกันไป..เอ่อ… หนองบัวลำภู
เมื่อก่อนย้อนไปไม่นาน ความคึกคะนองของกระทิงหนุ่ม ช่างมีมากเหลือเกิน ดีบ้าง อะไรบ้าง ก็ว่ากันไป แต่ที่ผมได้มาก็น่าจะเป็นไปในทางดี
มันไม่ได้ผิดไปจากที่ “ผู้ใหญ่” เขาว่า นี่ขนาดแค่ผู้ใหญ่นะ ถ้าระดับกำนันจะขะไหนหนาด