ชีวิต หน้า 2 |

Tag: ชีวิต

มองต่างมุม

ผู้ชายกำลังใช้รถไถเดินตาม ไถนา
การอยู่ท่ามกลางข่าวสารที่ถาโถม เยอะแยะจนบางครั้งอาจจะเมาหมัดนักข่าว จนผู้เสพย์อย่างเราแยกแยะลำบากว่าอะไรจริง อะไรปลอม มันคลับคล้ายคลับคลาเหมือนเวลาเรามองคนที่ทำศัลยกรรมมา ต้องรอเวลาผ่านเลยถึงจะมองเห็นความชัดเจน ช่วงนี้ ผมหมายถึงช่วงหลังเลือกตั้ง กรกฎาคม 2554 การเมืองพลิกขั้ว ประชาชนเลือกข้าง ใช่ ชีวิตจริงเราก็ต้องเลือก เมื่อมีฝ่ายได้ ก็ต้องมีฝ่ายเสีย เจ็บปวดช้ำใจก็ตกไปอยู่กับคนที่พ่ายแพ้ การพ่ายแพ้ก็แค่พ่ายแพ้เพียงในนามของความเป็นสังคม การอยู่ร่วมกันในสังคม ผู้ชนะในวันนี้ ก่อนหน้าก็เคยปราชัยมาแล้ว ผู้แพ้ในวันนี้ก่อนหน้าก็เคยครองแชมป์มาก่อน สมบัติผลัดกันชม มันคือคำจริง ความจริงในโลกแห่งสังคมการเมืองการปกครอง ในวิถีของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ชั้นบนสุดของห่วงโซ่อาหารอย่างมนุษย์

สำหรับผมเองแล้วอาจจะแยกแยะการดำเนินแห่งชีวิตออกเป็น 4 ระดับ คือ ตัวตน ครอบครัว สังคมและเหนือสังคม (ความตายและจักรวาล) ผมคิดว่าการแยกแยะชีวิตของตัวเองออกเป็น 4 แบบนี้ ทำให้ผมมีชีวิตและใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ง่ายขึ้น ยิ้มง่ายขึ้น ทรมานตัวเองน้อยลง

ค่อยๆ ไป ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ เข็ญ ค่อยๆ ตาย

ครึ่งหนึ่งของชีวิต เราประมาณกันไว้ด้วยอายุประมาณเท่าไหร่ 20 ปี สามสิบปี สี่สิบปี ห้าสิบปี อันหลังนี้ออกจะยืนยาว นั่งยาวไปหน่อย คำตอบนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกัน การประมาณกับความแม่นยำมันไม่ค่อยเข้ากันอยู่แล้ว ไหนจะเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้อีก

อันนี้น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดคำว่า “ทำวันนี้ให้ดีที่สุด” แต่ ที่สุดของเรา กับ “ที่สุดของแจ้” ก็คงไม่เหมือนกันอีก แล้วมันจะสุดตรงไหน

นั่นสิ มันจะสุดที่ตรงไหน

เอาเป็นว่าใช้ชีวิตเรื่อยๆ แบบไม่เบียดเบียนใครก็แล้วกันน่าจะเข้าท่ากว่า อยากเข้าท่ากว่านี้ ก็ไปขับเรือจะได้เข้าท่าทุกวันกันไป..เอ่อ… หนองบัวลำภู

เมื่อก่อนย้อนไปไม่นาน ความคึกคะนองของกระทิงหนุ่ม ช่างมีมากเหลือเกิน ดีบ้าง อะไรบ้าง ก็ว่ากันไป แต่ที่ผมได้มาก็น่าจะเป็นไปในทางดี

มันไม่ได้ผิดไปจากที่ “ผู้ใหญ่” เขาว่า นี่ขนาดแค่ผู้ใหญ่นะ ถ้าระดับกำนันจะขะไหนหนาด

ชีวิต ในความเป็นไป

หลังจากที่ร้างลา ห่างหาย หลบเร้น ซ่อนลวง ไปนานหลายชั่วยาม ชีวิตที่มันดำเนินไป โดยสะดวก และไม่สะดวก ก็ได้พบคำตอบที่ค่อยๆ เปิดออกมาให้เห็น ว่าความเป็นจริงแล้ว เรากำลังดำเนินไป อย่างไร เพื่ออะไร และทำไม ซึ่งอันความยุ่งยากที่เราได้พานพบนั้น หากเข้าใจ จริงจังแล้ว มันจักใช่อยากยุ่งมายมากอย่างคิดไว้ไม่

อย่างที่ผู้รู้เขาบอกไว้ว่า ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำไป สิ่งใดที่มุ่งหวัง จักเกิดผล ไม่เสร็จวันนี้ ก็เสร็จพรุ่งนี้ ไม่เสร็จพรุ่งนี้ ก็เสร็จในวันต่อๆ ไป และหากว่าไม่เสร็จเลยไซร้ มันจึงเป็นเช่นนั้นเอง ประมาณได้ว่า สิ่งนั้นที่มันเกิดขึ้นมา เกิดขึ้นมาเพื่อความไม่เสร็จสมบูรณ์ เกิดขึ้นมาเพื่อทำให้คนรู้ไม่เท่าทัน หงุดหงิดงุ่นง่าน กว่าจะรู้ว่า “ช่างมัน” เราก็เสียเวลา โอกาส ไปมากโข

ชีวิต ความเป็นอยู่ ความทรงจำ

หลากหลายเรื่องราวชีวิตดำเนินตามกาลแห่งเวลา พาเราล่วงไหลไป เปรียบเสมือนกำลังลอยล่องฟ่องฟูในสายธาร
สาธารแห่งเวลากาล กาลนั้น กาลนาน ที่เราไม่อาจจะหยุดยั้งมันเอาไว้ได้ด้วยตัวเอง

ผมนั่งนิ่ง ท่ามกลางความมืดมิด จิตใจลอยล่องหวนนึกถึงความหลัง กำพืดเหล่ากอที่หล่อเลี้ยง
กระชับกำชัด ว่า “เราเคยเป็นใคร ไป-มา อย่างไร” อย่าได้ลืม

เศร้านักในใจ มายืนอยู่ตรงนี้ได้ ทำไม คนอื่น ใคร ไม่ตามผมมา
เพื่อนพ้องคนเก่า ใครเล่าจะรู้ ยามยากถามใถ่ คำตอบเดียวที่ได้ “ขายแรงงาน”

คนไม่เคย คงไม่รู้ คนที่ได้ดู คงเพียงแค่ได้เห็น คนที่เคยผ่าน อาจจะไม่เคยเป็น
ความยากลำเค็ญ จริง จริงแล้วมันเป็นเช่นไร

ชีวิต หน้าที่ การงาน

ครึ่งเดือน, สองสัปดาห์, สิบห้าวัน หรือแล้วแต่จะประมาณการ นั่นคือระยะเวลาที่ผมใช้ชีวิตอยู่ที่หาดใหญ่ ในช่วงเวลาดั่งที่กล่าวมาข้างต้น เงียบ เงียบ เรื่อย เรื่อย เอื่อย เอื่อย แต่ปรอดโปร่ง ทำให้มีความสุขกับการได้หยุดคิด หยุดวิ่ง ในหลาย หลาย เรื่องราวของชีวิต

เครื่องบินกำลังไต่ระดับนสู่ขึ้นสู่ระดับความสูงมาตรฐาน กลุ่มก้อนเมฆที่ลอยล่องอยู่เบื้องล่าง ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกๆ เพราะปรกติ จะแหงนหน้ามองก้อนเมฆ แต่บางครั้งก็ได้มีโอกาศก้มหน้ามองก้อนเมฆ กับเขาบ้าง

Back to Top